สิ่งแรกที่ต้องถามตัวเองก่อนที่จะทำการออกแบบ Company Profile คือเราทำไปเพื่ออะไร จุดประสงค์ในการทำคืออะไร และความสำคัญของ Company Profile คือใช้เพื่ออะไร
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาบริษัทที่น่าเชื่อถือเวลานำเสนอ สินค้าและบริการส่วนใหญ่ จะมีการแนบ Company Profile ไปด้วยในการนำเสนองาน เพื่อความน่าสนใจและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าในอนาคต สิ่งสำคัญ 3 หลักใหญ่ๆ ที่ต้องเข้าใจและตีความให้ได้คือ
- จะทำให้ลูกค้ารู้จักเราได้ยังไง
- ทำไมลูกค้าต้องรู้จักเรา
- ลูกค้ารู้จักเราแล้วจะได้ประโยชน์ต่อตัวลูกค้าเองอย่างไร
โดยรายละเอียดที่ต้องใส่ในเอกสาร Company Profile นั้นต้องสั้นกระชับ เข้าใจง่ายและชัดเจน ในรายละเอียดไม่ควรใส่มากเกินไป ควรเน้นเฉพาะรายละเอียดหรือเรื่องสำคัญที่ต้องการนำเสนอ โดยข้อมูลที่ใส่ลงไปนั้น ต้อง “น่าสนใจ และมีความน่าเชื่อถือสูง” โดยข้อมูลทั้งหมดต้องเป็นความจริง ที่สามารถตรวจสอบหรือสามารถอ้างอิงได้
โดยเนื้อหาที่นำมาใส่ในการออกแบบ Company Profile นั้น โดยหลักจะแยกได้เป็น 2 ส่วนคือ
- ข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง เช่นชื่อบริษัท ประวัติการก่อตั้งบริษัท โครงสร้างการบริหารของบริษัท วิสัยทัศน์องค์กร ช่องทางการติดต่อ
- ข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง เช่น ผลงานของบริษัท รายชื่อลูกค้าที่เคยให้บริการ รวมทั้งสินค้าและบริการ

และข้อมูลปลีกย่อยอื่นๆ ที่ทางเจ้าของหรือผู้ที่สนใจจะทำ Company Profile ควรคิดตัดสินใจมาก่อนเช่น
- – ชิ้นงานมีขนาดเท่าไหร่ โดยขนาดก็มีตั่งแต่ขนาด A3, A4, A5
- – ชิ้นงานมีจำนวนกี่หน้า โดยจำนวนหน้าขึ้นอยู่กับรายละเอียดข้อมูลที่ต้องการใส่ใน Company Profile
โดยเบื้องต้น ข้อมูลที่ทางเจาของบริษัท หรือเจ้าของกิจการจำต้องเตรีมเพื่อการออกแบบ Company Profile นั้น มีตามนี้
- 1. ชื่อบริษัท และโลโก้ของบริษัท (ถ้าต้องการใส่)
- 2. ประวัติ และข้อมูลของบริษัท
- 3. โครงสร้างการบริหารของบริษัท อาจรวมทั้ง นโยบาย และวิสัยทัศของบริษัท
- 4. สินค้าและบริการของบริษัท
- 5. ผลงานที่ผ่านมา และรายชื่อลูกค้า (ถ้าต้องการใส่)
- 6. ช่องทางการติดต่อ
รายละเอียดที่ต้องมีเบื่องต้นของการออกแบบ Company Profile จะมีประมาณนี้ แต่ถ้าลูกค้าหรือผู้สนใจท่านใดมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามทาง The Design ได้ครับ ทางเรายินดีให้บริการครับ